Powered By Blogger

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รายงานผลการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 11/06/2012


ฟุตบอลยูโร 2012 นัดแรก กลุ่ม ดี
วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2555
ฝรั่งเศส 1       -       1 อังกฤษ

สนาม : ดอนบาส อารีน่า โดเนตส์ค, ยูเครน

      คู่แรกของกลุ่ม ดี "ทีมตราไก่" ฝรั่งเศส จัดทัพเต็มกำลัง วาง คาริม เบนเซม่า ยืนเป็นหัวหอก โดยมี ฟร้องค์ ริเบรี่, ซามีร์ นาสรี่ และ โยอัน กาบาย เป็นตัวสนับสนุนจากแดนกลาง ขณะที่ "สิงโตคำราม" อังกฤษ นัดนี้ใช้ แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นทีเด็ดแดนหน้า พร้อมส่งดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงเล่นฝั่งซ้าย ส่วนแดนกลางมี สกอตต์ พาร์เกอร์ กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด คอยคุมเกม

      นาทีที่ 3 อังกฤษ ได้ลุ้นก่อน อาดิล รามี่ กองหลังฝรั่งเศส จ่ายบอลพลาด  อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัดบอลได้ทางฝั่งซ้าย ก่อนตัดสินใจเปิดเข้ากลาง แต่ติดกองหลัง ฝรั่งเศส

      นาทีที่ 5 ฝรั่งเศส บุกครั้งแรก และมาได้ลูกเตะมุมก่อน แต่ ซามีร์ นาสรี่ เปิดไม่ได้ลุ้นอะไร

      นาทีที่ 7 แอชลี่ย์ โคล ทำฟาวล์ ซามีร์ นาสรี่ ทางริมเส้นฝั่งขาว ฟลอร็องต์ มาลูด้า รับหน้าที่เปิดไปหน้าประตู แต่ก็ยังไม่เข้าจุดโฟกัส

      นาทีที่ 10 โยอัน กาบาย แทงบอลจากกลางสนาม ทะลุไปถึง ฟร้องค์ ริเบรี่ ทางด้านซ้าย เจ้าตัวพาบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้าย ยังเปิดไม่ผ่านกองหลังอังกฤษ

      นาทีที่ 14 อังกฤษ ได้โอกาสทองฝังเพชร แอชลี่ย์ ยัง แทงบอลทะลุแนวรับ ฝรั่งเศษ ไปถึง เจมส์ มิลเนอร์ ได้แตะบอลหลบ อูโก้ โยริส ไปทางฝั่งซ้าย แต่จังหวะสุดท้ายยิงออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

      นาทีที่ 16 โยอัน กาบาย ได้ซัดจากนอกกรอบเขตโทษ โจ ฮาร์ท ยังปัดไว้ได้

     นาทีที่ 26 ฝรั่งเศส ขึ้นมาทางฝั่งขวา มาติเยอ เดอบูชี่ ทะลุขึ้นมาได้เปิดไปหน้าเขตโทษ แต่ก็ยังไม่พ้นมือ โจ ฮาร์ท

      นาที่ 30 เป็นทางฝั่งสิงโตคำรามที่ได้เฮก่อน จากจังหวะฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม เปิดมาหน้าเขตโทษ เข้าหัว โจลีออน เลสค็อตต์ โขกบอลผ่านตัว อูโก้ โยริส เข้าไปตุงตาข่าย ให้ทีมสิงโตคำราม ออกนำ 1-0




      นาที่ที่ 34 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โดนใบเหลืองแรกของเกม หลังไปเสียบ มาติเยอ เดอบูชี่

     นาทีที่ 35 ซามีร์ นาสรี่ เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวา อาลู ดิยาร์ร่า ได้โขกเต็มๆ แต่ยังไม่ผ่านมือ โจ ฮาร์ท ที่ปัดบอลไปเข้าหัว ฟร้องค์ ริเบรี่ โหม่งไปให้ ดิยาร์ร่า โขกอีกทีก็ยังไม่เป็นประตู

      นาทีที่ 39 ฝรั่งเศส ขึ้นเกมมาทางซ้าย ถึงหน้าเขตโทษ ริเบรี่  แตะบอลคืนให้ นาสรี่ ซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทีมตราไก่ตีเสมอได้สำเร็จ 1-1




     นาทีที่ 42 ทีมตราไก่ มาทางซ้ายอีกครั้ง ริเบรี่ เปิดเข้ามาแต่ไม่ผ่าน จอห์น เทอร์รี่ ฝรั่งเศส ได้เตะมุมไม่ได้ลุ้นอะไรในจังหวะนี้

     นาทีที่ 44 คาริม เบนเซม่า ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษฝั่งขาว บอลติดเชฟ โจ ฮาร์ท ออกหลังไป จากนั้นทั้งสองทีมยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

      กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น

      นาทีที่ 48 อังกฤษเกือบเสียประตู เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายคืนหลังพลาดให้ ซามีร์ นาสรี่ หลุดเข้าไปยิง แต่ โจ ฮาร์ท วิ่งออกมาล้มตัวเตะทิ้งไว้ได้ทัน

      ผ่านพ้นหนึ่งชั่วโมง รูปเกมของฝรั่งเศสยังเหนือกว่าอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์

      นาทีที่ 65 คาริม เบนเซม่า ทำชิ่งกับ ฟร้องค์ ริเบรี่ ก่อนได้สับไกด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท ล้มตัวรับไว้ได้สบาย

      นาทีต่อมา  เกล็น จอห์นสัน เติมเกมบุกขึ้นมาก่อนล็อคเข้ากลางและซัดด้วยซ้ายแต่บอลข้ามคานออกไปไกล

       นาทีที่ 71 แอชลี่ย์ ยัง รับใบเหลือง หลังไปทำฟาวล์ใส่ คาริม เบนเซม่า

      ฝรั่งเศส เกือบได้ประตู จากจังหวะที่ ฟร้องค์ ริเบรี่ ลากบอลจากริมเส้นก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไป บอลปลิ้นจะเข้าเสาแรกแต่ โจ ฮาร์ท ล้มตัวปัดไว้ได้ก่อนที่ โจลีออน เลสค็อตต์ จะมาเคลียร์ทิ้ง

       นาทีที่ 77 สิงโตคำราม เปลี่ยนตัวผู้เล่นทีเดียวสองคนโดยส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงสนามแทน อเล็กซ์ แชมเบอร์เลน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงแทน สกอตต์ พาร์เกอร์

      นาทีที่ 80 ทีมตราไก่เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม ซามีร์ นาสรี่ เปิดเข้าไป ฟร้องค์ ริเบรี่ โหม่งคืนหลังให้ โยอัน กาบาย ได้วอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆแต่บอลแฉลบ แดนนี่ เวลเบ็ค ออกหลังไป

       นาทีที่ 84 ฝรั่งเศส เปลี่ยนตัวผู้เล่นบ้างโดยส่ง ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา แทน โยอัน กาบาย และ  มาร์กวิน มาร์กแต็ง ลงมาแทน ฟลอร็องต์ มาลูด้า

      นาทีที่ 88 อังกฤษ ได้ลุ้นจากลูกเปิดริมเส้นของ เจมส์ มิลเนอร์ บอลกำลังจะไปเข้าทาง แดนนี่ เวลเบ็ค ที่รอเข้าชาร์จแต่ ฟิลิปป์ เม็กแซส ล้มตัวสกัดออกไปได้ทัน

       นาทีสุดท้าย อังกฤษส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงสนามมาแทน แดนนี่ เวลเบ็ค

      ช่วงทดเจ็บ ทีมตราไก่ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงไกลนอกกรอบของ คาริม เบนเซม่า แต่ โจ ฮาร์ท ล้มตัวปัดก่อนตามมาตะครุบไว้ได้ และก็เป็นจังหวะสุดท้ายของเกม จบเกม ฝรั่งเศส เสมอกับ อังกฤษ 1-1 แบ่งไปทีมละหนึ่งแต้ม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
        ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - มาติเยอ เดอบูชี่, อาดิล รามี่, ฟิลิปป์ เม็กแซส, ปาทริซ เอวร่า - โยอัน กาบาย (ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา น.84), อาลู ดิยาร์ร่า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า (มาร์กวิน มาร์กแต็ง น.84) - ซามีร์ นาสรี่, คาริม เบนเซม่า, ฟร้องค์ ริเบรี่
        สำรองที่ไม่ได้ใช้ : สตีฟ ม็องด็องด้า (ผู้รักษาประตู), เซดริก การ์ราสโซ่ (ผู้รักษาประตู), มาติเยอ วัลบูเอน่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, แบลส มาตุยดี้, อ็องโตนี่ เรเวยแยร์, เฌเรมี่ เมเนซ, ยันน์ เอ็มวีล่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, กาแอล กลิชี่
        ใบเหลือง : -
        อังกฤษ : โจ ฮาร์ท - เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, โจเลียน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล - เจมส์ มิลเนอร์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม), สกอตต์ พาร์เกอร์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.78), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน  (เจอร์เมน เดโฟ น.78)- แอชลี่ย์ ยัง - แดนนี่ เวลเบ็ค (ธีโอ วัลค็อตต์ น.90)
        สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โรเบิร์ต กรีน (ผู้รักษาประตู), แจ็ค บัตแลนด์ (ผู้รักษาประตู), เลห์ตัน เบนส์, ฟิล โจนส์, ฟิล จากีลก้า, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, แอนดี้ แคร์โรลล์ 
        ใบเหลือง : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.34, แอชลี่ย์ ยัง น.70
        
ผู้ตัดสิน : นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)




แมน ออฟ เดอะ แมตช์


ซามีร์ นาสรี่ (ฝรั่งเศส) 

        เพลย์เมคเกอร์จากสโมสรแมนฯซิตี้ รายนี้มีครบทั้งทักษะและวิสัยทัศน์ในการอ่านเกม นัดนี้ นาสรี่ เด่นมากมีโอกาสส่องตั้งแต่ต้นเกม ก่อนมาพังประตูตีเสมอด้วยการซัลโวด้วยขวาจากระยะ 20 หลา อย่างสุดสวยในนาทีที่ 39 ช่วยให้ตราไก่ไม่เพลี่ยงพล้ำ แล้วยังสามารถยึดแท็คติกเดิมได้ในครึ่งหลัง เรียกได้ว่าหนึ่งคะแนนของฝรั่งเศสในเกมนี้ นาสรี่ มีส่วนอย่างมากทีเดียว  


สถิติหลังเกม
ฝรั่งเศส                                                       อังกฤษ      19                 ยิงทั้งหมด (ครั้ง)                   3
     15                ยิงเข้ากรอบ (ครั้ง)                 1
      9                            ฟาวล์                             7
     11                         เตะมุม                             4
      0                           ล้ำหน้า                           5
    61%       เปอร์เซนต์การครองบอล         39%
      0                        ใบเหลือง                          2
        0                          ใบแดง                            0 
      0                        ช็อตเซฟ                          6





ตราไก่เพิ่มสถิติไม่แพ้ 22 นัดซ้อน




        ทีมชาติฝรั่งเศส เพิ่มสถิติไม่แพ้ใครนานเป็น 22 เกมติดต่อกัน โดยเป็นการชนะ 15 เสมอ 7 นัด หลังจากเสมอ อังกฤษ 1-1 ที่ดอนบาส อารีน่า ในโดเนตส์ค ประเทศ ยูเครน ในยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา

        
นอกจากนั้น เลส์ เบลอส์ ยังเพิ่มสถิติไม่แพ้ สิงโตคำราม 6 นัดติดต่อกัน อีกด้วย โดย ฝรั่งเศส แพ้ อังกฤษ ครั้งสุดท้ายคือเกมวันที่ 7 มิถุนายน 1997 ด้วยสกอร์ 0-1 แมตช์กระชับมิตรที่มงต์เปลลิเย่ร์ ในเมืองน้ำหอม




ปู่รอยเริงร่าสิงโตแชร์แต้มตราไก่

        รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษออกอาการเป็นปลื้มเต็มที่หลังจากทีมสิงโตคำรามแบ่งแต้มจากฝรั่งเศสได้ในเกมออกสตาร์ตศึกยูโร 2012 ด้วยผลเสมอ 1-1

        แม้จะถูกมองว่าเป็นรอง แถมทีมตราไก่มีสถิติไม่แพ้ยาวนาน แต่อังกฤษขึ้นนำก่อนจากลูกโขกของโจลีออน เลสค็อตต์ ก่อนจะถูกซามีร์ นาสรี่กระทุ้งประตูตีเสมอให้เลส์ เบลอส์ได้

        ถึงกระนั้นฮ็อดจ์สันก็ประทับใจผลเสมอกับคู่ปรับสำคัญในกลุ่มอยู่ดี

        "ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีเพราะเราต้องเผชิญหน้ากับทีมที่แข็งแกร่ง" ปู่รอยเอ่ย

        "เราเล่นได้อย่างมีวินัย และจบเกมด้วยสกอร์ 1-1 เราจึงแฮปปี้กันมาก"

        "ผมไม่ได้หงุดหงิดเลยที่เราเสียประตูตีเสมอเพราะเราป้องกันการบุกของพวกเขาได้เป็นอย่างดี จริงๆแล้วเรามีโอกาสของเราด้วยซ้ำ"





บล็องก์ชี้เป็นหนึ่งแต้มที่มีค่าของตราไก่


        โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศสระบุ ผลเสมอ 1-1 กับอังกฤษเป็นสกอร์ที่ถูกต้องแล้วในการพาทีมตราไก่ทำศึกยูโร 2012 เป็นเกมแรก

        "มันเป็นผลเสมอที่มีค่าสำหรับทั้งสองทีม มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย"

        "เราน่าจะได้ประตูที่สองด้วยซ้ำแม้เราจะมีโอกาสในครึ่งหลังเพียงน้อยนิด" บล็องก์กล่าวก่อนนำทีมลงบู๊นัดที่สองกับยูเครนเจ้าภาพร่วมที่โดเน็ตส์คในวันศุกร์ ขณะที่อังกฤษจะฉะกับสวีเดนที่เคี๊ยฟในวันเดียวกัน


ที่มา  http://www.siamsport.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น